วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ความทรงจำในคืนวันเพ็ญ...เงาไม้


ขอบคุณเพลง เงาไม้ จากวงไหมไทยนะคะ ที่ให้ไอเดียในการแต่งนิยายเรื่องนี้ค่ะ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------


คืนนี้เป็นคืนเดือนเพ็ญ...

...คืนนี้จึงเป็นคืนที่”กอหญ้า”โปรดปรานที่สุด


แสงจันทร์วันนี้นวลคล้ายชวนให้น้องเที่ยว


“ต้นแก้ว...พี่อยากออกไปชมจันทร์จัง” เสียงใสของกอหญ้าเอ่ยปากถามน้องสาวเพียงคนเดียวของตนที่กำลังนั่งสานปลาตะเพียนอยู่ที่ริมตลิ่ง

“แก้วจะไปกับพี่ไหม”

“พี่จะพายเรือออกไปหรือ”

“ก็คงอย่างงั้นแหละ” บทสรุปของบทสนทนาระหว่างพี่น้องจบลงด้วยการพายเรือออกไปชมจันทร์ที่ศาลากลางน้ำ


ฟ้าสีเข้มที่ไร้เมฆหมอกบดบัง ขับจันทร์ให้โดดเด่นกว่าเคย....


จะให้เหลียวไปแห่งไหน


“พี่กอหญ้าดูปลาตัวนี้สิ”

“นี่ๆตรงนั้นด้วย”

“โห! ทำไมที่นี้ดาวเยอะจังละคะ เยอะกว่าริมตลิ่งที่บ้านเราอีก”

ผู้เป็นพี่ทำได้เพียงยิ้มออกมาน้อยๆกับน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นของต้นแก้ว...ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ต้นแก้วจะพูดพรรณนาถึงความสวยงามตลอดทาง...เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ต้นแก้วมาที่นี่

“พี่กอหญ้า ดูในน้ำสิเห็นเงาอะไรรึเปล่า” คิ้วบางเลิกขึ้นเล็กน้อยกับคำถามที่ถูกส่งมาอย่างกะทันหัน และใช้ดวงตาคู่สวยมองไปยังที่ๆน้องสาวตนชี้


ชลใสดูในน้ำเงาดำนั้นเงาใด

อ๋อไม้ริมฝั่งชล...


“อ๋อ...ต้นไม้ริมน้ำนะ...” กอหญ้ายิ้มแล้วพูดต่อ ”สวยใช่ไหมละ”

“อื้อ! สวยมากๆเลยละ”

“ทั้งต้นไม้ ทั้งฝูงปลา ทั้งพระจันทร์ ทุกอย่างสวยไปหมด ต้นแก้วชอบที่สุดเลย”

“พี่ก็ชอบเหมือนกันจะ”  พูดจบกอหญ้าก็จอดเรือไว้ใต้เงาต้นไม้ต้นนั้น

ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ดวงจันทร์ยิ่งลอยเด่นฟ้า สายลมอ่อนของราตรีพัดเข้ามาปะทะกับใบหน้าอย่างอ่อนโยน กอหญ้าแลเห็นประกายความสุขในดวงตาของน้องสาว มันเป็นความสุขที่ออกมาจากใจจริงที่ไม่มีการปรุงแต่ง กอหญ้ารู้สึกเช่นนั้น

สวยแจ่ม แสง เดือน

หมู่ปลาเกลื่อนดูเป็นทิว

หรรษ์รมย์...ลมริ้ว

จอดเรืออาศัยเงาไม้ฝั่งชล


และคืนนี้จะเป็นคืนที่สองพี่น้องจะจดจำไว้ไปอีกนานแสนนาน...

         


“พอถึงคืนวันเพ็ญ...สัญญาว่าจะออกมาชมจันทร์ด้วยกัน”

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

"The Library ห้องสมุดแห่งรัก" หนังดีๆที่ทุกคนควรดู


วันนี้ จขบ.มีหนังสั้นดีๆมานำเสนอค่ะ ชื่อเรื่องว่า “The Library ห้องสมุดแห่งรัก”
อยากให้ทุกคนสละเวลาสัก 30 นาทีเพื่อดูหนังเรื่องนี้จนจบ
          บางที...เมื่อดูจบแล้วคำว่า “เดี๋ยวก่อน” หรือ “รอก่อน” ที่ออกมาจากปากของคุณ...อาจจะน้อยลงก็ได้




“ถ้าหากวันนั้น...พวกเราได้คุยกันละก็”
           
            “สิ่งเล็กๆที่เราทำ อาจช่วยเปลี่ยนโลกใบนี้” มัลลอยด์ยิ้มและพูดต่อว่า “อาจจะไม่มีใครรู้จนกระทั่งเราตายไปแล้วร้อยปี เราอาจจะไม่มีวันเห็นมันเลยด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เราสร้างไว้จะคงอยู่ตลอดไป” ข้อความนี้คัดลอกมาจากหนังสือ “From Here to Eternity” และถูกนำเสนอผ่านหนังสั้นเรื่อง “The Library ห้องสมุดแห่งรัก” แต่จะสื่อออกมาในรูปแบบไหน จะเป็นแบบเดียวกับที่เราเข้าใจรึเปล่า? ก็ต้องติดตามชมกันต่อไป



            เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่ห้องสมุดแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่ที่ “จิม” ได้พบกับ”แอน” บรรณารักษ์สาวของห้องสมุดแห่งนี้ ทั้งสองตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกเห็น แต่เพราะกฎของห้องสมุดที่ว่า ห้ามใช้เสียง เลยทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถพูดคุยกันได้ ดังนั้นจิมเลยใช้วิธีสื่อสารกับแอนโดยการเขียนข้อความไว้หลังใบยืมจากหนังสือที่เขายืมไป แต่โชคร้ายที่แอนไม่เคยสังเกตเห็นมันเลย เวลาล่วงเลยไปพร้อมกับความรู้สึกดีๆของทั้งคู่ถูกเก็บไว้ที่ก้นบึ้งของหัวใจ ฉากสำคัญของเรื่องเริ่มที่ว่า แอนได้รับรู้ถึงความจริงที่ว่าจิมได้จากไปอย่างไม่มีทางหวนกลับ และเธอได้พบข้อความของจิมที่เขียนถึงเธอในหนังสือทุกเล่มที่เขายืม...ตั้งแต่เล่มแรกจนถึงเล่มสุดท้าย แอนพลาดโอกาสที่จะบอกความในใจของตัวเองออกไป ในตอนนี้สิ่งที่เหลืออยู่กับแอนมีเพียงความรู้สึกในใจของเธอ และกระดาษโน้ตของคนที่เธอรัก เธอได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือ “โอกาส” เธอสูญเสียโอกาสที่จะบอกความรู้สึกนั้นออกไป



            หนังสั้นเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของพระเอกกับนางเอกที่ต้องหาวิธีการสื่อสารกันโดยไม่ใช้คำพูด เพราะมี“กฎห้ามใช้เสียงของห้องสมุด” เป็นอุปสรรค และนี่คือจุดสำคัญที่ทำให้หนังสั้นเรื่องนี้มีความต่างจากหนังสั้นเรื่องอื่นๆ
ข้อความของจิมฉบับสุดท้ายที่เขียนถึงแอน

            การดำเนินเรื่องของ “ The Library” แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของคนสองคนที่เหมือนจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นอย่างช้าๆ ในขณะเดียวกันเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งคู่ได้เติบโตผ่านการเรียนรู้ความผิดหวังจากความรักและได้เรียนรู้ว่าบางครั้งบทสรุปของความรักอาจไม่ได้ลงเอยด้วยความสุขเหมือนในเทพนิยาย หากแต่เป็นจุดจบอันน่าเศร้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง

            มีคนมากมายที่ผิดหวังและต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก แค่เพียงเพราะ รอ รอจนสูญเสียโอกาสสำคัญ ที่ทั้งชีวิตอาจไม่ได้รับอีกเป็นครั้งที่สอง ซึ่งประเด็นนี้ “The Library” ได้สื่อถึงคนดูได้อย่างชัดเจนและสมบูรณ์แบบ ผ่าน จิม และ แอน ที่เติบโตขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งช่วงเวลาของความสุขและความเศร้าต่างผสมผสานกันได้ย่างลงตัว เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนเกี่ยวพันกับช่วงเวลาที่มาพร้อมกับโอกาส


จบแล้วค่ะในเอนทรี่นี้
แล้วพบกันใหม่ในเอนทรี่หน้านะคะทุกคน


...เกล้าแกละ...