วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2556

กว่าจะออกมาเป็น "PiZza"


คุณรู้หรือไม่ว่า? กว่าจะมาเป็น พิซซ่า หนึ่งถาดมันต้องใช้ความยากในการทำมากน้อยแค่ไหน

เชื่อเลยว่าบางคนไม่รู้เพราะไม่เคยทำเอง เคยแต่เดินเข้า the pizza hut หรือ the pizza company แล้วสั่ง พิซซ่าอย่างสบายใจ รออีกสักพัก พิซซ่า ถาดโตก็มาวางอยู่ตรงหน้ามาให้เราลิ้มลองกันแล้ว...


พิซซ่า
(เครดิตภาพจาก Google)

และเมื่อไม่นานมานี้ฉันก็มีโอกาสที่ได้ทำ พิซซ่า ทานเองที่บ้านกับเพื่อนคนหนึ่ง
และค้นพบว่า!

"มันยากมาก" (เพราะเราไม่เคยทำ) 

ด้วยความที่อยากลองทำ อยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไร ก็เลยตัดสินใจว่าจะทำ

สิ่งแรกที่เราต้องรู้ก่อนที่จะทำ พิซซ่า คือ...

"สูตร" ของพิซซ่า
และแน่นอนว่าพิซซ่าไม่ได้มีแค่สูตรเดียว (งานเข้า!) และแน่นอน...งานนี้ต้องพึ่ง youtube 

และค้นหาคำว่า How to Make Pizza Dought (การทำแป้งพิซซ่า)

และตอนนั้นเอง...เราก็เจอกับปัญหาครั้งใหญ่

เพราะมันเป็นภาษาอังกฤษ บอกตรงๆว่าตัวเองก็ไม่ได้เก่งอังกฤษขนาดนั้นที่จะฟังรู้เรื่องหมด
เลยต้องมานั่งฟัง ค่อยๆจับใจความ อันไหนที่ฟังไม่ได้ก็ฟังไปน่ะ ฟังซ้ำไปเรื่อยๆ ห้าหกรอบก็ฟังไป


^
^
และสุดท้าย....มันก็สำเร็จ เราสามารถจดสูตรทั้งหมดออกมาได้(อย่างปลอดภัย?)





ปัญหาต่อไปหน่วยการ ชั่ง ตวง วัด ของต่างประเทศกับไทย 

"มันไม่เหมือนกัน"

และที่มากกว่านั้น 1.5 Pound (ปอนด์) มันเท่ากับกี่ถ้วย? 

หลังจากคิดไปได้สักพักก็พบว่า คิดไม่ออก 

เพราะของทุกอย่างล้วนมี มวล น้ำหนัก ปริมาตร และขนาด ไม่เท่ากัน
เช่น ก้อนหินหนึ่งถ้วย  เท่ากับ  สำลีหนึ่งถ้วย 
สมมุติฐานทางข้างต้นผิด เพราะน้ำหนักของก้อนหินและสำลีต่างกัน 
และถ้าเป็นถ้วยขนาดถ้วยเท่าไหนใหญ่แค่ไหน?

ซึ่งนี้เราจะคาดประมาณหรือเดาสุ่มไม่ได้

เลยเข้าไปในเว็บไชต์นี้ >>> http://www.traditionaloven.com/tutorials/conversion.html
(และปัญหานี้ก็พบกับทางออก ฮ่าๆๆ) 

ลองคิดดู ในโลกเรามีคนบ้าๆคนหนึ่ง ที่มานั่งสังเกตอะไรแบบนี้ 
เขามองในสิ่งที่ใครหลายๆคน มองข้าม ไปว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ

แต่เพราะคนบ้าๆคนนี้เราให้เราได้คำตอบ 
และด้วยการสังเกต ความพยายาม ความอดทน และอีกมากมายทำให้เขาก้าวขึ้นไปสูงกว่าคนทั่วไป


การทำแป้งพิซซ่า

อย่าลืมใส่น้ำมันมะกอกนะคะ

สิ่งสำคัญต่อมาในการทำพิซซ่าคือ การนวดแป้ง เพราะถ้าเรานวดไม่ดีแป้งที่ได้ก็อาจจะไม่ฟูและไม่อร่อย
หลังจากนวดไปสักพักเราก็ต้องนำแป้งที่นวดแล้วไปใส่ไว้ในถ้วยแล้วหา พลาสติก หรือ ฝาปิดไว้
และจากนั้นแป้งของเราก็จะฟูฟ่อง(?)ขึน (รอสักหนึ่งชั่วโมง) และพร้อมสำหรับการนำไปอบ

ตัวอย่างการนวดแป้งพิซซ่า
(เครดิตภาพจาก Google)
                                          

ส่วนตัวซอสพิซซ่าของเรา 
ก็ทำมาจาก ซอสมะเขือเทศกระป๋อง นำมารวมกับมะเขือเทศ(ลูก) และ หอมใหญ่ ต้มรวมกับจนข้นพร้อมปรุงรสตามใจชอบ ใครชอบหวานชอบเค็มก็ใส่ได้เลยตามแต่ใจ แต่ต้องระวังไม่ให้ใส่เยอะเกินเพราะมันจะเป็นผลเสียต่อสุขภาพของเรา


หน้าพิซซ่า
อันนี้ก็ใส่ตามใจชอบใครอยากกินอยากทานหน้าอะไรก็ใส่ได้เลย จะแปลกพิสดารแค่ไหนก็ตามแต่(อิอิ)
เช่น ชืส หมูสับ หัวหอม ไส้กรอก เห็ดต่างๆ ถั่ว ฯลฯ

และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาที่ใครหลายๆคนรอคอย
การ"อบ" พิซซ่า

การอบพิซซ่า
(เครดิตภาพจาก Google)
เราจะอบโดยใช้ไฟประมาณ 250-270 องศาเซลเซียส
ใช้เวลาโดยประมาณ 5 นาที


และเมื่ออบเสร็จก็ถึงเวลา

"กินนน" 
(อร่อยไม่อร่อยก็อีกเรื่องหนึ่งนะ)

เสร็จแล้วจ้า พิซซ่า (ทำเอง) ของเรา


สุดท้าย

การทำพิซซ่าคราวนี้ไม่ใช่ทำแค่ความสนุกเล่นๆ แต่มันแฝงไปด้วยการเรียนรู้ที่มากมาย 
ไม่ว่าจะเป็น ทักษะการฟังภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ ชีวะวิทยา รวมถึงการฝึกแก้ปัญหาต่างๆ
โดยมุ่งเน้นไปด้านความคิด โดยใช้ความรู้ที่เรามีเข้ามาประยุกต์ใช้

ทุกวิชาที่เราเรียนมีความเชื่อมโยงกันอยู่ เพียงแต่เราจะสังเกตเห็นถึงมันรึเปล่า

ลองมองโลกในมุมมองที่กว้างขึ้น ใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆน้อย

เช่น

การทำพิซซ่ามันต้องใช้ ยีสต์ 
แล้วยีสต์คืออะไร
ยีสต์เป็นพืชหรือสัตว์?

คำตอบ
ยีสต์เป็นเชื้อรา และเชื้อราเป็นพืช
ดังนั้นยีสต์คือพืชไม่ใช่สัตว์

และแน่นอนการทำแป้งหรือขนมปังมันต้องใช้ยีสต์ซึ่งก็เท่ากับว่าเรากินเชื้อราลงไป

แต่เชื้อราก็ไม่ได้มีชนิดเดียวมันมีหลายชนิด ที่เขาเอาไปบ่มเนยแข็งจะเป็นสีเขียวๆ ฟ้าๆ
(อย่างบลูชีสเป็นต้น) 

บลูชีส ชีสอร่อยจากราสีฟ้า (มีอีกชื่อว่า ชีสเน่า)
(เครดิตภาพจากgoogle)
ส่วนราที่เป็นโทษส่วนใหญ่จะเป็นสีดำๆ การสูด สปอร์ (Spore)  ของมันเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจหรือปอดของเรา หรือการกินส่วนของราที่เป็นพิษ ส่วนใหญ่พิษ (Toxin) ของเชื้อราจะเล่นงานเราสะสมไว้เป็นมะเร็งในอนาคต แต่สำหรับบางคนก็อาจเกินอาการ คลื่นไส้ อาเจียน หลังจากที่เผลอกินเชื้อราเข้าไปภายในไม่กี่ชั่วโมง...

ตัวอย่างราที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย (สะสมไปเรื่อยๆ = =?!)




เราเรียนจากประสบการณ์ ความรู้ไม่ได้อยู่แค่ในหนังสือ หรือในห้องเรียน 

"มันอยู่นอกห้อง" ถ้าเราไม่ลองเราก็ไม่รู้

เผลอๆบางที เราก็เรียนรู้แบบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ


โลกมันกว้าง...กว้างกว่าที่เราคิดไว้เยอะ

อยากรู้อะไรก็ถาม เพราะถ้าไม่ถามเราก็ไม่รู้

และบางทีก็อาจจะทำให้เราเสียโอกาส 

ออกไปพบออกไปเจอแล้วเราจะรู้ว่า การเรียนรู้ มันสนุกกว่าที่คิด

โลกกว้างขึ้นต้องรู้จักการเชื่อมโยง



ถ้าเจอบทเรียนอะไรสนุกๆก็จะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ ^^

See you soon.